เอาเกมมาให้เล่นกันครับ

ข่าวเกมส์ต่างๆครับ

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2552

Crysis Warhead Review [ รวมรีวิวภาคหลักด้วยครับ ]




สวัสดีครับ ผมนายK8Lขอเชิญทุกท่านกลับเข้าสู่ความโกลาหล และโหดร้ายจากฝูงเอเลี่ยนมรณะอีกรอบใน Crysis Warhead ครับ

ระบบที่ใช้ทดสอบ

AthlonX2 4800+ @ 3.1GHz
Memory 4GB DDR2 800MHz @ 1000MHz
Spark GF9600GT Zero SLI
HDD 500GB 32MB buffer
SB Live Audigy
OS : Windows Vista Ultimate SP1 X86
GeForceDriver v.178.24

คุณภาพกราฟฟิกระดับ Gamer NoAA/AR ที่ความละเอียด 1280*1024

จุดแรกเลย คือการเปลี่ยนแปลงจากการรับบทโนแมด เป็นไซโค ชายผู้ดิบเถื่อนและสบถแต่คำหยาบออกมาเป็นพักๆ
ผมไม่แน่ใจว่าเพราะเหตุนี้หรือเปล่าจึงทำให้ EA ไม่แปลภาคเสริมตัวนี้เป็นภาษาไทย ทำให้ความสนุกเหมือนกับ
ได้ดูซับไตเติ้ลจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ลดลงไปนิดหน่อย แต่ความสนุกและความมันต้องบอกว่าเพิ่มขึ้นจากภาค
ที่แล้วเยอะเลยครับ



ตัวเกมเล่าถึงช่วงเวลาเป็นระยะๆ (ไม่แน่นอน) โดยเรารับบทเป็นไซโคผู้ยากไร้ซึ่งต้องรับภารกิจหนีตา ยหรือ
ไม่ก็ภารกิจสังหารระดับยักษ์ (ซึ่งโนแมดดูเด็กๆไปเลย) ภาคนี้ได้รับการเอาใจใส่ในรายละเอียดหลายๆด้าน
และมีการใช้เอฟเฟกต์เพิ่มเติมโดยที่ผมสังเกตดูแล้วว่ า ภาคWARHEAD บริโภคสเปคลดลงกว่าเดิมครับ
ดังนั้นการ์ดรุ่นกลางอย่าง 9600GT ของผมจึงสามารถเรนเดอร์ภาพในระดับ Gamer ได้เฉลี่ยราวๆ25-35เฟรม
ซึ่งให้ภาพที่สวยงามน่าพอใจทีเดียวครับ โดยที่ไม่กระตุกมากเท่าใดนัก แต่น่าแปลกที่ผมใช้ SLI Mode แล้ว
กลับให้เฟรมเรตที่ไม่คงที่ แม้จะใช้ไดร์ฟเวอร์ตัวล่าสุดก็ตาม

Gameplay รูปแบบยังไม่ต่างกับภาคที่แล้วครับ และแน่นอนว่ามันไม่จบที่ภาคนี้เพราะทีมงานตั้งใจว่าจ ะทำ3ภาค
เพราะงั้นภาคหน้าอาจได้เล่นเป็นหัวหน้าหรือพรอฟิท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงขึ้นอยู่กับยอดขายภาคนี้เป็นหลั กครับ
ทางทีมงานตั้งใจจะให้เราเล่นสลับกับฉากมูวี่ที่เรนเด อร์ด้วยเอนจิ้นคราย ซึ่งก็ดูไม่ขัดตาแต่อย่างใดครับ
ภาคนี้ถ้าเล่นในระดับปกติ ผมว่าใช้เวลาไม่นานในการจบเกม ซึ่งค่อนข้างสั้นครับ และไม่น่าชวนกลับมาเล่นซ้ำ
เพราะไม่มีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่ ซึ่งเป็นจุดเสียของเกมแนวนี้จริงๆครับ



Graphic ก็ยังเป็นแบบเดิมโดยมีการเพิ่มเอฟเฟกต์บางประเภทขึ้น มาและให้ผลที่ดูดีขึ้น และภาคนี้ได้ทำการ
ปรับปรุงเอนจิ้นให้บริโภคแรงเครื่องน้อยลง แต่ในส่วนของแรมที่เรียกใช้ สำหรับเครื่องผมก็ยังถือว่าเยอะอยู่
พอสมควรครับ คือระดับ 2.7-2.9GB กันเลยทีเดียว โดยที่เฟรมเรทเฉลี่ยเมื่อใช้ Single Mode จะอยู่ที่ 20-30เฟรม
และเมื่อทำการเปิด SLI Mode จะได้เฟรมเรทที่เพิ่มขึ้นคืออยู่ในช่วง 35-40 หรือ50เฟรมในบางช่วงครับ แต่เมื่อ
เปิดระดับกราฟฟิคสูงสุดก็ยังคงมีอาการกระตุกอยู่เป็น ระยะๆ ซึ่งคงต้องมองเป็น GF9800GTX หรือ HD4870ขึ้่นไป
ถึงจะเล่นได้ราบรื่นมากกว่านี้ครับ





Sound ด้านซาวด์ ถ้าพูดถึงเอฟเฟกต์ก็คงต้องบอกว่าปรับปรุงได้ดีขึ้น เสียงเอฟเฟกต์ดูดีพอสมควรแต่ผมไม่ค่อย
ถูกใจกับเพลงประกอบซึ่งบางครั้งดูขัดๆหู ไม่ได้อยู่ในอารมณ์เดียวหรือเป็นโทนเดียวกับสถานการณ ์ในเกมขณะนั้น
และเพลงบางเพลงก็เป็นเพลงซ้ำๆซึ่งดูน่าเบื่อครับ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น